ติดเครดิตบูโร ซื้อบ้านได้ไหม ดู 3 ขั้นตอนแก้เครดิตบูโร ก่อนกู้ซื้อบ้าน

คำถามเกี่ยวกับการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน อันดับต้นๆ เลยก็คือ ติดเครดิตบูโร ซื้อบ้านได้ไหม หรือที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า
เป็นการติดแบล็คลิสต์ซื้อบ้าน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าในในเกี่ยวกับ “เครดิตบูโร” กันก่อนว่า เครดิตบูโร คืออะไร
และความเกี่ยวข้องกับการขอกู้สินเชื่อซื้อบ้านอย่างไร

เครดิตบูโร คืออะไร
เครดิตบูโร ก็คือ “บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลประวัติ
ของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด สินเชื่อกู้ซื้อบ้าน
ผ่อนรถยนต์ และอื่น ๆ รวมถึงประวัติการกู้ผ่อนจ่ายทั้งหมดของเรา

ดังนั้น ประวัติด้านการเงินของเราเกี่ยวกับธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกบันทึกและจัดเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นประวัติที่ดีหรือประวัติที่ไม่ดีก็ตาม
นอกจากเครดิตบูโร คือ อะไร แล้วยังมีอีกคำหนึ่งที่มักได้ยินควบคู่กันนั่นก็คือ “ติดแบล็คลิสต์ซื้อบ้าน” ซึ่งมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 2 คำนี้
ว่าเป็นคำเดียวกัน มีความหมายเหมือนกัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” เป็นเพียงตัวกลางที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรม
ทางการเงินให้กับสถาบันต่าง ๆใช้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการปล่อยหรือการอนุมัติสินเชื่อให้กับบุคคลที่มาขอยื่นกู้เท่านั้น

โดยสถาบันทางการเงินต่าง ๆ จะนำข้อมูลที่ได้เหล่านี้มาตรวจสอบดูพฤติกรรมการใช้เงินและวินัยในการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละเดือน เพื่อให้แน่ในว่า
เมื่อทางสถาบันหรือธนาคารทำการอนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กับบุคคลดังกล่าวแล้ว ผู้กู้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามข้อกำหนดในสัญญาการกู้ยืม

ติดแบล็คลิสต์ซื้อบ้าน คืออะไร
หลังจากที่ได้รู้จักกับ “เครดิตบูโร คืออะไร” กันไปแล้ว มาทำความรู้จักกับ แบล็คลิสต์ หรือ Blacklist กันบ้าง
ว่าคำ ๆ นี้ มีอิทธิพลและส่งผลกระทบอย่างไรกับการปล่อยกู้หรือการอนุมัติสินเชื่อซื้อบ้านของเรา

การขออนุมัติสินเชื่อก่อสร้างหรือซื้อบ้านนั้น ทางสถาบันทางการเงิน หรือธนาคารจะดูปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัยประกอบการตัดสินใจ เพราะ “บ้าน”
ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง ดังนั้นปัจจัยหนึ่งที่เจ้าหน้าที่จะนำมาใช้ในการพิจารณานั่นก็คือข้อมูลจากทาง “เครดิตบูโร”

หากผู้ขอยื่นกู้มีประวัติดี มีวินัยในการชำระหนี้ดี ก็จะมีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติสูง แต่ถ้าหากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ผ่อนชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด
รวมถึงมียอดค้างชำระหนี้อยู่ในระบบ ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารย่อมไม่ไว้วางใจในการอนุมัติสินเชื่อดังกล่าว เนื่องจากมีแนวโน้มว่าผู้กู้จะมีหนี้เสียหรืออาจ
ผิดค้างชำระหนี้จนเกิดปัญหาตามมา

ดังนั้นการติด “แบล็คลิสต์” เป็นเพียงคำนิยามของ “ผู้ที่มีประวัติในการผ่อนชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ได้ตามข้อตกลง”
เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีการขึ้นบัญชีรายชื่อในระบบใดๆ

หากติดเครดิตบูโร ซื้อบ้านได้ไหม
จากข้อมูลข้างต้นที่เราได้ทำความรู้จักทั้งเครดิตบูโร คือ อะไร การติดเครดิตบูโร และการติดแบล็คลิสต์ซื้อบ้านกันมาแล้ว
เป็นที่ทราบกันแน่นอนแล้วว่าปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารจะใช้พิจารณาอนุมัติปล่อยกู้สินเชื่อซื้อบ้านเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือประวัติธุรกรรมทางการเงิน

ดังนั้นจึงทำให้ผู้ขอยื่นกู้ที่ติดเครดิตบูโรไม่ได้รับอนุมัติในการขอสินเชื่อดังกล่าว เพราะสถาบันทางการเงินหรือธนาคารจะมองเราในภาพรวมว่ายังไม่มี
ความพร้อมในการขอสินเชื่อซื้อบ้านในครั้งนี้ รวมถึงพฤติกรรมที่บ่งบอกว่ายังไม่มีความพร้อมและมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้ในอนาคตมากพอ
อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะผ่อนชำระหนี้ได้ไม่ตรงตามข้อกำหนดอีก

แต่ก็ใช่ว่าผู้ที่มีประวัติในการติดเครดิตบูโรแล้วจะไม่มีโอกาสในการขอสินเชื่อ เพียงแต่ว่าจะต้องทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เสร็จสินเสียก่อน
จึงจะทำการขอยื่นกู้สินเชื่ออีกครั้ง

ขั้นตอนการแก้ปัญหาเมื่อติดเครดิตบูโร ก่อนทำการกู้ซื้อบ้าน
มาถึงขั้นนี้สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาในการขออนุมัติสินเชื่อซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากติดเครดิตบูโร เรามีทางแก้มาแนะนำ

1. รู้จักสถานะทางบัญชีในเครดิตบูโร
รายงานข้อมูลเครดิตนั้นจะทำการเก็บข้อมูลของเราย้อนหลังไปทั้งหมด 36 เดือน (หรือ 3 ปี) ว่าเรามีประวัติทางการเงินอย่างไรบ้าง
และมีสถานะทางการเงินในบัญชีเป็นอย่างไร โดยให้ดูที่ตัวเลขที่กำกับไว้

ตัวเลข 10 ความหมายคือ มีสถานะปกติ โดยเจ้าของบัญชีมีการชำระสินเชื่อตามจำนวนยอดเงินปกติ ตรงตามเงินไข และไม่มียอดค้างชำระ
ตัวเลข 11 ความหมายคือ มีสถานะปิดบัญชี โดยเจ้าของบัญชีได้ทำการชำระหนี้ตามยอดค้างหมดแล้ว
ตัวเลข 12 ความหมายคือ มีสถานะในการพักชำระหนี้ โดยเจ้าของบัญชีได้ทำการขอพักชำระหนี้ที่เคยมียอดค้างชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ
ซึ่งทำให้สถานะในระหว่างการพักชำระหนี้ไม่มีการระบบสถานะว่ามียอดค้าชำระ
ตัวเลข 20 ความหมายคือ มีสถานะในการค้างชำระหนี้ในระบบเกิน 90 วัน ซึ่งสถานะนี้จะทำให้เกิดผลเสียต้องเจ้าของบัญชีเนื่องจากมียอดค้างชำระหนี้
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และหากเจ้าของบัญชีไม่ทำการติดต่อขอชำระหนี้ อาจถูกดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ติดเครดิตบูโรควรทำการตรวจเช็กสถานะบัญชีตัวเองให้ทราบแน่ชัดเสียก่อน เพื่อทำการวางแผนและจัดการแก้ไขในลำดับต่อไป

2. วางแผนและจัดการด้านการเงิน
หลังจากที่เราทำการเช็กสถานะบัญชีเครดิตบูโรของเราเรียบร้อยแล้ว จากนั้นทำการคำนวณและวางแผนในการผ่อนชำระหนี้คงค้างทั้งหมดให้เร็วที่สุดเท่าที่
จะทำได้เพื่อเปลี่ยนสถานะให้กลับมาเป็นบัญชีปกติ

  • เริ่มจากการขอพักชำระหนี้
  • ชำระหนี้ตามจำนวนขึ้นต่ำหรือมากว่า เพื่อปิดบัญชี ไม่มีมียอดค้างในระบบ

3. วางแผนก่อนการขอยื่นกู้
สร้างเครดิต เช่น การขอสินเชื่อบัตรเครดิต ที่จำเป็นต้องใช้ โดยทำการชำระเต็มวงเงิน หรือตามข้อตกลงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดชำระ
ขอยื่นกู้ร่วมกับคนในครอบครัวที่มีประวัติเครดิตบูโรที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ

เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจแล้วว่าติดเครดิตบูโร ซื้อบ้านได้ไหม ซึ่งหากแก้ประวัติทางการเงินเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการขอยื่นกู้สินเชื่อซื้อบ้านที่ต้องการ
สถาบันทางการเงินหรือธนาคารต่าง ๆ พร้อมรอการอนุมัติวงเงินได้ทันที